your name
ภาพยนตร์เริ่มพัฒนาในปี ค.ศ. 2014 เขียนบทและกำกับโดย มาโกโตะ ชิงไก ตัวละครหลักให้เสียงโดย รีวโนซูเกะ คามิกิและโมเนะ คามิชิราอิชิ กำกับแอนิเมชันโดย มาซาชิ อันโดะ, ออกแบบตัวละครโดย มาซาโยชิ ทานากะ และแต่งเพลงประกอบภาพยนตร์โดย แรดวิมส์ ไลต์โนเวล ที่ดัดแปลงจากภาพยนตร์ วางจำหน่ายก่อนภาพยนตร์จะฉายรอบปฐมทัศน์หนึ่งเดือน
ตัวละคร
แก้ไขภาพเพิ่มเติมโดย photoshop
ทะกิ ทะชิบะนะ เด็กมัธยมหนุ่มในกรุงโตเกียว ใช้ชีวิตอย่างเป็นสุขท่ามกลางผองเพื่อน ทำงานนอกเวลาที่ร้านอาหารอิตาลี อารมณ์ร้อน แต่จิตใจดี
มิสึฮะ มิยะมิซุ นักเรียนมัธยมหญิงในเมืองอิโตะโมะริแถบชนบทญี่ปุ่น ก้าวร้าว โผงผาง มีปัญหากับครอบครัว เข้าหน้าบิดาไม่ติด ไม่ชอบใจที่บิดามักกดขี่อย่างเปิดเผย เป็นมิโกะประจำศาลเจ้าของตระกูล ทำหน้าที่ปรุงสาเกคุชิกะมิกะเซะถวายเจ้าตามกรรมวิธีโบราณ
มิกิ โอะกุเดะระ นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ทำงานที่ร้านอาหารแห่งเดียวกับทะกิ มีใจให้ทะกิเหมือนที่เขามีให้เธอ
ฮิโตะฮะ มิยะมิซุ (ย่าของมิสึฮะ) ช่ำชองการเล่นร้อยเชือกคุมิฮิโมะ เป็นหัวหน้าศาลเจ้าประจำตระกูลมิยะมิซุ ซึ่งเป็นชื่ออันมีความหมายว่า "วารีแห่งศาล" ส่วนชื่อเมืองอิโตะโมะริ ที่นางและครอบครัวอาศัย ทั้งเป็นที่ดำเนินเรื่องนั้น หมายความว่า "ผู้พิทักษ์เชือก"
คะสึฮิโกะ เทะชิงะวะระ (คนข้างซ้าย = เพื่อนของมิสึฮะ) ชำนาญอุปกรณ์ก่อสร้าง โดยเฉพาะระเบิด
ซะยะกะ นะโตะริ (คนข้างขวา = เพื่อนของมิสึฮะ) ช่างกังวล อยู่ชมรมแพร่ภาพกระจายเสียง ปฏิเสธเสียงแข็งมาเสมอว่า ไม่ได้หลงรักคะสึฮิโกะ
ชินตะ ทะกะงิ (คนข้างซ้าย = เพื่อนของทะกิ) มองโลกในแง่ดี มาช่วยเหลือเพื่อนเสมอ
สึกะซะ ฟุจี (คนข้างขวา = เพื่อนของทะกิ) เป็นห่วงเป็นใยทะกิเสมอเมื่อทะกิถูกมิสึฮะครองร่าง
โยะสึฮะ มิยะมิซุ (น้องสาวของมิสึฮะ) รักพี่ แต่มักมองว่า พี่เสียสติ คอยช่วยพี่ปรุงสาเกถวายเจ้า
โครงเรื่อง
มิสึฮะเป็นเด็กนักเรียนหญิงในเมืองอิโตโมริ เหนื่อยหน่ายกับชีวิตในชนบท และปรารถนาจะเป็นหนุ่มหล่อ ณ กรุงโตเกียวในชาติหน้า ต่อมา ทากิเด็กนักเรียนชายในกรุงโตเกียว ตื่นขึ้นพบว่า ตนเองคือมิสึฮะ ส่วนมิสึฮะกลับอยู่ในร่างของทากิ
ทะกิและมิสึฮะเข้าใจว่า ตนสลับร่างกัน จึงเริ่มติดต่อสื่อสารกันโดยส่งข้อความทางกระดาษหรือโทรศัพท์ ครั้นเวลาผ่านไป ต่างคนเกิดเริ่มคุ้นชินกับร่าง และเริ่มก้าวก่ายชีวิตของกัน มิสึฮะช่วยให้ทะกิสนิทสนมกับมิกิ โอะกุเดะระ เพื่อนร่วมงานหญิง จนทั้งคู่นัดหมายดูใจกัน ส่วนทะกิก็ช่วยให้มิสึฮะเป็นดาวโรงเรียน
ภายหลัง มิสึฮะบอกทะกิว่า จะมีดาวหางในเร็ววันนี้ สามารถมองเห็นได้ในเทศกาลท้องถิ่นเมืองอิโตโมริ ตนต้องการชมมาก วันถัดมา ทะกิจึงตื่นขึ้นพบว่า ตนกลับอยู่ในร่างเดิม แล้วไปพบมิกิตามนัดหมาย แต่การดูใจไม่ประสบผล นอกจากนี้ ทะกิยังตระหนักว่า ตนและมิสึฮะไม่สลับร่างกันอีกแล้ว ทะกิจึงตกลงใจออกติดตามหามิสึฮะ แต่ไม่ทราบแม้แต่ชื่อบ้านชื่อเมืองของเธอ จึงเตร่ตระเวนไปทั่วชนบทญี่ปุ่น อาศัยภาพที่ตนร่างขึ้นจากความทรงจำ ในที่สุด พนักงานร้านอาหารแห่งหนึ่งระลึกได้ว่า ภาพนั้นคือเมืองอิโตโมริ
พนักงานคนนั้นแจ้งว่า ดาวหางตกที่เมืองนี้เมื่อสามปีก่อน ทำลายเมืองจนย่อยยับ สังหารประชากรไปราวสามในสี่ ทะกิจึงค้นหาบันทึกเกี่ยวกับอุบัติการณ์ครั้งนั้นและพบว่า มิสึฮะเป็นหนึ่งในผู้เคราะห์ร้าย
ทะกิจึงไปยังศาลเจ้าตระกูลมิสึฮะ แล้วพบว่า ช่วงเวลาของตนและมิสึฮะนั้นไม่สัมพันธ์กันเลย ทะกิดื่มสาเกที่มิสึฮะทำถวายไว้ในศาล หวังว่าจะช่วยให้ติดต่อกับร่างมิสึฮะก่อนเกิดดาวตกได้ ฉะนั้น ทะกิจึงตื่นขึ้นในร่างของมิสึฮะ และพบว่า ยังมีเวลาช่วยเมือง จึงออกบอกเพื่อนฝูงเรื่องดาวหาง และชวนกันโยกย้ายผู้คน ขณะนั้น ทะกิเข้าใจว่า มิสึฮะบัดนี้อยู่ในร่างตนที่ศาล จึงมุ่งหน้าไปหาเธอที่นั้น
วิญญาณของมิสึฮะตื่นขึ้นในร่างของทะกิ แล้วออกเดินเร่ไปจนสุดยอดภูเขาที่ซึ่งศาลตั้งอยู่ แม้จะรับรู้ได้ถึงกันและกัน แต่ทะกิและมิสึฮะกลับหากันไม่เจอ เพราะช่วงเวลาของทั้งสองยังไม่สัมพันธ์กัน ครั้นอาทิตย์ตก ทะกิและมิสึฮะระลึกได้ว่า เป็นยามโพล้เพล้ ซึ่งในภาษาญี่ปุ่นโบราณเรียก "คะวะตะเระ" (彼は誰) แปลตรงตัวว่า "นั่นใครกัน?" และยามโพล้เพล้นี้เองเป็นเวลาที่ทั้งคู่เคยคืนสู่ร่าง ดังนั้น ทั้งสองจึงพบกัน
ทะกิบอกมิสึฮะให้ชักนำบิดาผู้ห่างเหินของเธอซึ่งเป็นนายกเทศมนตรีเมืองนั้นให้อพยพผู้คน ทั้งคู่จึงเขียนชื่อกันและกันไว้บนฝ่ามือ จะได้หากันเจอเมื่อกลับสู่ช่วงเวลาของแต่ละคนแล้ว ทว่า มิสึฮะอันตรธานไปก่อนจะเขียนชื่อตนได้ ส่วนทะกินั้นกลับเขียนว่า "ฉันรักเธอ" แทนชื่อของตน ดังนั้น เมื่อคนทั้งสองพยายามจะจำชื่อของกัน จึงไร้ผล และที่สุดก็ลืมเลือนซึ่งกัน
แปดปีให้หลัง ปรากฏว่า ชาวเมืองอิโตโมริทั้งหมดเอาชีวิตรอดจากเหตุการณ์ดาวตกได้ เพราะมิสึฮะชี้นำให้บิดาดำเนินการอย่างทันท่วงที ส่วนทะกิสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยและกำลังหางาน แต่ลึก ๆ ยังคร่ำครวญหาอดีตบางอย่างมาตลอด ทะกิพบว่า ตนเองสนใจใคร่รู้เกี่ยวกับเมืองอิโตโมริมาเสมอ เช่น เมื่อเห็นนิตยสารเกี่ยวกับเมืองนี้ หรือผู้คนจากเมืองนี้ที่เคยพบพานมาในร่างมิสึฮะ ครั้นแล้ว วันหนึ่ง ทะกิและมิสึฮะก็เห็นกันขณะรถไฟที่ตนโดยสารผ่านพ้นกัน ทั้งสองจึงลงรถแล้วออกค้นหากัน พวกเขาพบกัน ณ ขั้นบันได ความรู้สึกราวกับรู้จักกันมาเนิ่นนานก็เอ่อท้น ก่อนคนทั้งสองจะเอ่ยปากถามชื่อกันและกัน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น